<body id=bd><script type="text/javascript"> function setAttributeOnload(object, attribute, val) { if(window.addEventListener) { window.addEventListener('load', function(){ object[attribute] = val; }, false); } else { window.attachEvent('onload', function(){ object[attribute] = val; }); } } </script> <div id="navbar-iframe-container"></div> <script type="text/javascript" src="https://apis.google.com/js/platform.js"></script> <script type="text/javascript"> gapi.load("gapi.iframes:gapi.iframes.style.bubble", function() { if (gapi.iframes && gapi.iframes.getContext) { gapi.iframes.getContext().openChild({ url: 'https://www.blogger.com/navbar.g?targetBlogID\x3d7145547\x26blogName\x3dESZhang+blog\x26publishMode\x3dPUBLISH_MODE_BLOGSPOT\x26navbarType\x3dSILVER\x26layoutType\x3dCLASSIC\x26searchRoot\x3dhttps://zenac.blogspot.com/search\x26blogLocale\x3den_US\x26v\x3d2\x26homepageUrl\x3dhttp://zenac.blogspot.com/\x26vt\x3d3767548654419712195', where: document.getElementById("navbar-iframe-container"), id: "navbar-iframe", messageHandlersFilter: gapi.iframes.CROSS_ORIGIN_IFRAMES_FILTER, messageHandlers: { 'blogger-ping': function() {} } }); } }); </script>

 ESZhang blog

บันทึก ความทรงจำ บ่น ระบาย เหตุบ้านการเมือง ไปๆมาๆ กล้องกับการถ่ายรูป กับงานสุดรัก คอมพิวเตอร์งัย

ความทรงจำกับการถ่ายรูปพลุที่สะพานพระปิ่นเกล้า

งานชิ้นนี้ผมเขียนเอาไว้เมื่อ 11 มิถุนายน 2549 วันนั้นไปถ่ายรูปพลุที่สะพานพระปิ่นเกล้า
แล้วประทับใจกับเพื่อนๆตากล้องที่อยู่ข้างๆกัน เลยเขียนเอาไว้แต่เสียดายมัวแต่อ้างนู่นนี่
เลยไม่ได้เอามาลงซะที วันนี้สังคยนา Harddisk เห็นมันแว้บๆเลยเอามาลงซะดีกว่า
ไม่ค่อยสดแต่ผมก็ชอบงานชิ้นนี้นะ
เมื่อวานไปถ่ายพลุที่สะพานพระปิ่นเกล้ามาครับ
ก่อนไปเค้าว่ากันว่าจะจุดระหว่าง สะพานพระพุทธยอดฟ้ากับสะพานพระปิ่นเกล้า
พลุระเบิดกลางแม่น้ำ หลังจากประสบการณ์อันเลวร้ายที่ศูนย์ประชุม
ผมเลยไปมันตั้งแต่บ่ายสองเดินสำรวจสถานที่แล้วซื้อหนังสือพิมพ์มานั่งจองที่รอ
ตอนบ่ายสามเหล่าเพื่อนๆตากล้องก็เริ่มมาจับจองที่กันหนาตาขึ้นเรื่อยๆ
จนราวๆห้าโมงเย็นแนวริมแม่น้ำสะพานพระปิ่นทั้งหมดก็เต็มไปด้วยขาตั้งกล้อง
ส่วนผู้ที่มาชมเฉยๆเริ่มมากันตอนเย็นๆแล้วสักหกโมงได้ ผู้คนก็เริ่มล้นออกไป
อีกฝากฝั่งของสะพานจนเริ่มกินถนนไปทีละเลน จนกระทั่งต้องปิดถนนในที่สุด
คะเนจากสายตาปริมาณคนถ้าไม่หลักหมื่นก็เฉียดๆแหละ

พลุวันนี้เห็นไกลๆครับเค้าไปจุดฝั่งสะพานพระพุทธยอดฟ้าหมด มารู้ทีหลังด้วยซ้ำว่า
ที่สนามหลวงเห็นชัดมากมีพระราชวังเป็นฉากหลังด้วย สำหรับผมพลุเนี่ยเฉยๆครับ
ความสวยเก็บได้ไม่เต็มที่ เพราะไกลด้วย แถมมีตึกบังอีกตะหากแต่ยังดีที่มันสูง

แต่มันมีอย่างอื่นน่าสนใจกว่านั้นเยอะครับ ที่สะพานพระปิ่นมีเหตุการณ์เจ๋งๆหลายอย่าง
เริ่มจากตอนผมมานั่งจองที่ก็มีน้องคนผู้ชายคนนึงมาขอนั่งด้วย ไม่ได้ถ่ายรูปแต่ขอทำเลดู
ก็เอาเลยน้องแบ่งๆกันได้เพื่อนเพิ่มมาหนึ่งหล่ะ ซักพักพี่ก้วง(สะกดถูกมั้ยพี่) หิ้วขาตั้ง
เดินมาถามน้องๆ พอแบ่งทำเลให้พี่ซักหน่อยได้มั้ย ได้สิครับไม่ว่ากันอยู่แล้ว
ได้มาเพื่อนเพิ่มอีกหล่ะคุยกันมันส์เลย พี่ท่านคุยเก่งมาก คุยไปคุยมาพี่แจ๊คหิ้วขาตั้ง
มาแจมอีกคนอยู่ทางด้านหลัง
"ผมตั้งขอด้านหลังตรงนี้ได้มั้ย"
"เอาเลยครับพี่แต่สูงๆหน่อยนะครับ"
เพื่อนมาอีกหนึ่งหล่ะ คุยกันสนุกเชียวจนพี่โอมที่ตั้งขาตั้งอยู่ข้างๆหันมาคุยด้วย
อะได้มาอีกคนแย้วซักพักฝนมาครึ้มเชียว พอมันเริ่มเปาะแปะลงมา
พี่ก้วงก็ล้วงผ้าแบลงเก็ตผืนเบิ้อเริ่มออกมากาง แล้วบอก
"น้องๆ ดึงกว้างๆแบ่งๆกันเข้ามาอยู่ข้างในมา"
"เอ้าน้องๆเข้ามายังมีที่อีกจะได้ไม่เปียก"
อ้าวเพิ่งเห็นหันกลับน้องแอมมาตั้งขาตั้งข้างหลังผมก็เข้ามาอยู่ในผ้าด้วยกัน
เพื่อนเพิ่มอีกรายแล้ววุ้ย คุยกันมันส์ไปเลยครับเหมือนรู้จักกันมานานยังงัยยั่งงั้น
บอกตรงๆประทัปใจครับเพราะ
ผมใช้ Oly E-300 กะ ZD 40-150 ชุดประหยัดสุดคุ้ม
พี่ก้วง Nikon D70 + 70 - 300 ขอบทองขาตั้งเทพหัวบอล
พี่โอม Sony จำรุ่นไม่ได้แต่เจ๋งมากครับพี่หมุนๆ Body ได้ด้วยท่าทางจะถ่ายง่ายนะนั่น
พี่แจ๊คมาพร้อม Cannon Film แน่มากพี่ว่าแต่มีตังส์ล้างยังอะกะ 350D ที่งัดออกมาทีหลัง
น้องแอมควง "เจ้าตัวเล็ก" Fiji S9500 จิ๋วแต่แจ๋ว
ไม่ซ้ำค่ายเลยครับท่านมากันครบเชียวแต่เราคุยกันไม่มีแบ่งแยกค่ายครับ
แนะนำทริก ปรึกษา แซวกันสนุกสนานมากๆ ตอนถ่ายก็ถามกันตลอดเวลา
"ผมบังมั้ย ได้มุมมั้ย"
"ก้มอีกได้นะ"
"ถ่ายได้มั้ย"
ทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกัน ณ ที่ตรงนี้บนสะพานโดยบังเอิน แต่เหมือนรู้จักกันมาเป็นปีๆ
ทั้ง 5 คนมีพี่ก้วงคนเดียวที่เคยถ่ายพลุมาเยอะสุดที่เหลือ หึหึ
เจ้งชัยกันที่ศูนย์ประชุมมาเป็นงานแรกกันหมด (ทำมัยไม่เจอกันแฮะ อุอุ)
วันนี้กะมาแก้ตัวกันทุกคน ก็เจอควันกันเข้าไปเต็มๆ(ใหนบอกพลุไร้ควันฟระ)

ยังๆยังไม่หมดพอถนนเริ่มปิดเพราะคนล้นลงไปก็มีรถเมล์มาจอดกลางสะพานเลย
ไปไม่ได้ก็จอดดูซะเลยแล้วกัน แล้วก็มีผู้กล้าปีนขึ้นหลังคารถพร้อม หนอนขาวอวบสองบ้อง
ขึ้นไปตั้งขาตั้งกันบนหลังคารถกันเลยพอขึ้นได้ปุ๊บ คนข้างล่างก็เฮกัน คนมีกล้องก็หันกันควับ
ยิงกันอย่างสนุกสนาน คนปีนก็โบกไม้โบกมือ แอ๊คอาร์ตกันไป ซักพักคนขับรถก็ปีนตาม
ตอนแรกนึกว่าจะไปไล่ที่ใหนได้ พอขึ้นได้ปุ๊บ โดนขาวอวบยิงใส่แอ๊คอาร์ตกันมันส์เลย
ยังยังไม่หมดชักพักก็มีผู้กล้าอีกท่านแต่เป็นสาวสวยพร้อมหนอน(คาดกันว่า 1DMarkII)
บวกขาวอวบอีกหนึ่งบ้องขึ้นตามไปแล้วทั้งสองคนก็ยิงกลับลงมาข้างล่าง เฮกันสนั่นเลย
เป็นเรื่องสนุกแก้เครียดระหว่างรอได้เป็นอย่างดีทีเดียวครับ

งานนี้เหนื่อยมากแต่คุ้มครับ
ขอบคุณงานพลุที่ทำให้ผมได้พบเพื่อนๆตากล้องอัธยาศัยดีๆมากมาย
ถึงแม้ภาพพลุที่ผมได้มันจะไม่สวยงามดังใจ แต่สิ่งที่ได้รับจริงๆสำหรับเมื่อวานนั้น
พี่ก้วง กับความรู้ดีๆ ทริกเจ๋งๆ กับผ้าแบลงเก็ตผืนโต และความสามารถใหนการคุยที่ทำให้พวกเราไม่เบื่อเลย ขอบคุณมากครับพี่
พี่แจ๊ค พี่ไปเอาอารมณ์ดีๆตลอดเวลามาจากที่ใหนครับ ยิงมุขได้ทุกสถาณการณ์จริงๆ ผมขอเอาไปใช้บ้างนะ
พี่โอม น้ำใจพี่นี่สุดยอด ถามตลอด "ผมบังมั้ย" "ขยับอย่างนี้ถ่ายได้นะ" "มาเดี๋ยวพี่ตั้งกล้องให้" ตากล้องน้ำใจงามจริงๆ
น้องแอม สำหรับน้ำ เสบียง และยังไปเดินเป็นเพื่อนร่วมทริปราชดำเนิน ทั้งๆที่ยืนบนสะพานมาไม่ต่ำกว่า 4 ชม. ขอบคุณมากๆ

เจอกันงานหน้าที่เมืองทองขอให้เพื่อนได้รูปสวยๆและที่สำคัญเราเป็น "คนถ่ายรูป" เหมือนๆกันแบ่งปันกันครับ
ขยับนิดๆหน่อยๆมุมมันไม่เสียไปเท่าใหร่หรอก ได้เพื่อนดีๆเพิ่มมาอีกมันคุ้มนะผมว่า

เอก
Sunday, October 08, 2006 at 13:33
  Post a Comment »
 

Copyright © 2005 for Blogger by Blogger Templates Inc. All rights reserved.